วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 11




 วันนี้เป็นการนำเสนอรายละเอียดของโครงการแต่ละกลุ่มที่ได้ไปจัดแต่ละสถานที่ของกลุ่มตนเอง
กลุ่มของดิฉันได้นำเสนอในโครงการ"ศิลปะสร้างสรรค์แบ่งปันรอยยิ้ม" ณ หมู่บ้านโกสุมร่วมใจ3

1.วันและเวลา/สถานที่
    วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ 2562 ณ อาคารอเนกประสงค์หมู่บ้านโกสุมร่วมใจ 3

2.หน้าที่รับผิดชอบ
ฝ่ายเอกสาร
1.นางสาวกฤษณา กบขุนทด    ประธาน
2.นางสาวสุชัญญา บุญญะบุตร กรรมการ
3.นางสารประภัสสร แทนด้วง   กรรมการและเลขานุการ

ฝ่ายสถานที่
1.นางสาวกฤษณา กบขุนทด ประธาน
2.นางสาวสุดารัตน์ อาสานามิ กรรมการ

ฝ่ายจัดเตรียมโสตทัศนูปกรณ์/ถ่ายภาพ
1.นางสาวกฤษณา     กบขุนทด       ประธาน
2.นางสาวสุชัญญา    บุญญะบุตร     กรรมการ
3.นางสาวประภัสสร   แทนด้วง        กรรมการและเลขานุการ

ฝ่ายประสานงาน
1.นางสาวกฤษณา       กบขุนทด  ประธาน
2.นางสาวรัตนา            พงษา       กรรมการ
3.นางสาวชนนิกานต์    วัฒนา       กรรมการ

ฝ่ายวิทยากร
1.นางสาวกฤษณา   กบขุนทด       ประธาน
2.นางสาวสุชัญญา  บุญญะบุตร     กรรมการ











บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 10

วันที่ 31 ตุลาคม 2562




 อาจารย์ได้ตรวจรายะเอียดของโครงการก่อนที่กลุ่มเราจะได้ลงพื้นที่จริงและอาจารย์ได้ใหเราลองซ้อมสถานทีที่เราจะได้ลงจริงๆ โครงการของเราชื่อ....โครงการศิลปสร้างสรรค์แบ่งปันรอยยิ้ม

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 9



วันที่ 24 ตุลาคม 2562





อาจารย์ตรวจเอกสารของโครงการของทุกๆกลุ่มอย่างละเอียดและชัดเจนอีกครั้งก่อนที่จะลงพื้นที่จริงๆ

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 8

วันที่ 17 ตุลาคม 2562



วันนี้อาจารย์ได้ตรวจรายละเอียดโครงการของแต่ละกลุ่ม เพื่อที่จะดูความคืบหน้าของโครงการ


บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 7

วันที่ 3 ตุลาคม 2562




       วันนี้อาจารย์ได้นัดให้มาพูดคุยเรื่องโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองของทุกๆกลุ่ม ในเอกสารต้องมีเอกสารการขอสถานที่ การทำแบบสอบถามของผู้ปกครองและแบบบันทึกกิจกรรมและหลังจากพูดคุยแล้วอาจารย์ได้แจกอุปกรณ์ที่จะนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมหรือทำบอร์ดให้ความรู้ผู้ปกครอง

ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ 
ประเมินเพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลาค่ะ
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์อธิบายรายละเอียดของโครงการค่ะ

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 6

วันที่ 19 กันยายน 2562 






วันนี้เรียนบทที่ 5 เรื่องรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา

รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน
ข่าวสารประจำสัปดาห์
   เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงพ่อแม่เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียนและแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบด้วย

  • รายละเอียดของสาระการเรียนรู้ ประสบการณ์และกิจกรรมที่สถานศึกษาวางแผนไว้ประจำสัปดาห์
  • พัฒนาการและการเรียนรู้ที่เด็กที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม
  • กิจกรรมครอบครัว กิจกรรมที่พ่อแม่ร่วมทำกับเด็กโโยในข่าวสารจะเสนอแนะกิจกรรมต่างๆ 
  • เรื่องน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง การให้ข้อมูลความรู้เพื่อนำไปอบรมเลี้ยงดู ส่งเสริมพัฒนาการเด็กหรือแก้ปัญหาพฤติกรรม
  • ข้อเสนอแนะของผู้ปกครอง เป็นการให้ผู้ปกครองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา
ห้องสมุดผู้ปกครอง 
    เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่่อให้ผู้ปกครองได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและส่งผฃต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษา

ป้ายนิเทศ
    ป้ายนิเทศเป็นป้ายที่จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา ลักษณะของป้ายประกอบด้วย ภาพ ตัวอักษร ของจริง แผนภูมิ สถิติ ป้ายนิเทศจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ

นิทรรศการ
    เป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูงข่าวสาร กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง การใช้สื่ออุปกรณ์หลายชนิดในการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร เช่น การเขียน ภาพถ่าย สถิติ รูปแบบการจัดนิทรรศการที่สามารถจัดได้ในสถานศึกษา ดังนี้
  • นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์
  • นิทรรศการเพื่อให้ความรู้
  • นิทรรศการเพื่อความบันเทิง
มุมผู้ปกครอง
   เป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองในระหว่างการเยี่ยมชมโรงเรียน การรอรับส่งเด็กหรือพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ปกครองหรือครู เป้าหมายสำคัญ คือ 
  • ให้ผู้ปกครองได้ใช้เวลาว่างระหว่างการรอรับ-ส่งเด็ก
  • สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างพ่อแม่ด้วยกัน
  • เด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกันตามความเหมาะสมในระยะเวลาสั้นๆ 
คำถามท้ายบท 
1.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน ครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ 1.ข่าวสารประจำสัปดาห์
         2.จดหมายข่าว
         3.กิจกรรม

2.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ 1.การสนทนา เช่น การพบปะพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเด็ก 
2.ป้ายนิเทศ เพื่อให้ความรู้ข่าวสารกับผู้ปกครอง
3.นิทรศการ เช่น นิทรรศการเพื่อให้ความรู้
4.การประชุม เช่น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 
5.ห้องสมุดสำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าในในการดำเนินงานของสถานบันที่เด็กศึกษา
6.มุมผู้ปกครอง เช่น ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น 
7.อินเทอร์เน็ต เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับสถานศึกษา บุคลากรในสถานศึกษา ต่างๆ
8.จุลสารประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครอง
9.คู่มือผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองได้รับข้อมูงข่าวสารกับสถานศึกษา 

3.นักศึกษามีวิธีหรือแนวทางการแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการหร่ือ
กิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย
ตอบ การทำจดหมายข่าวสาร เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ หรือในปัจจุบันต้องเป็นโลกของออนไลน์ อินเทอร์เน็ต 

4.การจัดกิจกรรมการให้ความรู็ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองตระหนักในความสำคัญการพัฒนาและการมีส่วนร่วมในการศึกษาของเด็กปฐมวัย 

5.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น
ตอบ การสนทนา เพราะสามารถอธิบายได้ เมื่อผู้ปกครองมีข้อสงสัยหรืออยากแสดงความคิดเห็นก็สามารถสอบถามหรือพูดคุยได้ซึ่งกันและกัน 

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 5

วันที่ 5 กันยายน 2562 







วันนี้เรียนบทที่ 4 เรื่องโครงงานการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ

โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศไทย  ตัวอย่าง เช่น
โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
ดำเนินงานโดยสำนักสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต เป็นโครงการที่มุ่งเร่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนไทย โดยผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมที่สำคัญ ด้วยการจัดทำชุดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง 
โครงการหนังสือเล่มแรก (Book start Thailand)
โครงการหนังสือเล่มแรก เริ่มต้นขึ้นในปี 2546 โดยการริเริ่มของมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งในปีนั้นรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นปีแห่งการอ่าน  ส่วนภาคเอกชนโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการ “รวมพลัง รักการอ่าน” ขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน  โดยมีเป้าหมายที่จะให้พ่อแม่ลูกมีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือ สร้างพื้นฐานการอ่านและสานสัมพันธ์ในครอบครัว ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยนิสัยรักการอ่านและประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งองค์กรท้องถิ่นในการรณรงค์โครงการ โดยการจัดทำถุงบุ๊คสตาร์ท (book start) ติดตามประเมินผลครอบครัวในโครงการ เป็นต้น
โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ  ตัวอย่าง เช่น

โครงการ การให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล

ประเทศอิสราเอลถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาค่อนข้างสูง เพราะถือว่าการศึกษาคือการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพ ดังนั้น จึงมีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 3-4ปี โดยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ งานการศึกษาเด็กโดยพ่อแม่ผู้ปกครองถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการศึกษาของอิสราเอลตั้งแต่ระดับอนุบาล การทำงานระหว่างบ้านกับโรงเรียนและชุมชนจึงพบได้ในทุกโรงเรียน ซึ่งถือเป็นงานปกติที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ 

โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา

- เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย รวมทั้งลักษณะของชีวิตครอบครัว

- ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก
- ได้อภิปรายเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและประเพณีที่มีต่อชีวิตครอบครัว
- เพื่อให้เข้าใจลักษณะและจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
คำถามท้ายบท
1. ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
ตอบ  คือฝึกให้เด็กโตขึ้นเป็นเด็กรักการอ่าน ฝึกทักษะด้านต่างๆ พัฒนาการของลูกการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีและการรักษาในด้านต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวอีกด้วย

2. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย
ตอบ  หาหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนี้เพื่อคุยและแก้ปัญหา และพยายามเสนอข่าวหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการให้มากที่สุดเพื่อให้ประชนมารับรู้โครงการนี้ให้มากที่สุด
3.ในฐานะนักศึกษาจะเป็นผู้ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็กๆ มา 5 เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างตอบ 1.เรื่องอาหารโภชนการ เช่น เด็กในแต่ละช่วงวัย ควรรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัยนั้นๆ2.พัฒนาการทัั้ง 4 ด้าน ร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา เช่น การส่งเสริมกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็ก3.สื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย เช่น การประดิษฐ์ของเหลือใช้จากวัสดุในบ้าน ให้ผู้ปกครงได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนั้นๆ4.นิทานสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น การเลือกนิทานที่ดีที่เหมาะสมกับเด็ก5.เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย จะช่วยส่งเสริมทั้งภาษาและส่งเสริมพัฒนาการ

4.การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร จงอธิบายตอบ การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็ก เพราะการให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องราวเด็ก เช่น เด็กในแต่ละวัยจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไปแต่เด็กบางคนอาจไม่แสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็น ทำให้ผู้ปกครองควรส่งเสริมพฤติกรรมนั้นๆของเด้กที่แสดงออกมา

5.นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบายตอบ พูดคุยกับผู้ปกครองอยู่สม่ำเสมอทำให้เราได้รู้จักผู้ปกครองและผู้ปกครองจะได้รู้พัฒนาการของเด็กในแต่ละวัน


วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 4

วันที่ 29 สิงหาคม 2562




วันนี้เรียน บทที่ 3 การสื่อสารกับผู้ปกครอง

ความหมายของการสื่อสาร
        การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข
ความสำคัญของการสื่อสาร

1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
5.ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2.
ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3.
สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4.
ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5.
ความเข้าใจและการตอบสนอง
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ  การสื่อสาร  (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก   ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสาร มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ 
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ  -ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม 
-ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย 
-ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจชีวิต
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด 
จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ    รูปแบบการสื่อสารของลาส์เวล เป็นรูปแบบการสื่อสารที่เข้าใจได้ง่าย 
           ตัวอย่าง ลูกโทรหาพ่อเพื่อให้พ่อมารับ
4.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจ
เกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ   1.ความพร้อม
2.ความต้องการ
3.อารมณ์และการปรับตัว
4.การจูงใจ
5.การเสริมแรง
6.ทัศนคติความสนใจ
7.ความถนัด

ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ แต่งกายสุภาพค่ะ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียนค่ะ ไม่ส่งเสียงดัง
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์อธิบายเข้าใจดีค่ะ

บันทึกหลัวการเรียนรู้ครั้งที่ 3

วันที่ 22 สิงหาคม 2562




วันนี้เรียน บทที่ 2 หลักเบื้องต้นในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

ความหมายของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
                 สรุปได้ว่า การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง หมายถึง การให้ความรู้เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก เพราะเด็กอยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันครอบครัว การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองถือเป็นกระบวนการทางสังคมซึ่งสังคมมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคคลภายในสังคมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคม ทั้งในและนอกระบบ การให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองจึงเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นพ่อแม่ให้ได้เรียนรู้ถึงวิธีการในการดูแล อบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็ก เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพและได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า เพื่อการพัฒนาตนต่อไปในอนาคต
ความสำคัญของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
    1. เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
    2. เป็นการให้ผู้ปกครองได้เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองที่มีต่อการศึกษาของเด็ก
    3. ทำให้ลดความขัดแย้งในการดำเนินงานทางการศึกษา ช่วยให้การศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
    4. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาของเด็ก
    5. ช่วยทำให้สถาบันครอบครัวมีความแข็งแรง
คำถามท้ายบท
1. การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบันการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ       1. เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก
    2. เป็นการให้ผู้ปกครองได้เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองที่มีต่อการศึกษาของเด็ก
    3. ทำให้ลดความขัดแย้งในการดำเนินงานทางการศึกษา ช่วยให้การศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
    4. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาของเด็ก
    5. ช่วยทำให้สถาบันครอบครัวมีความแข็งแรง
2.  ในสถานศึกษาปฐมวัยสามารถดำเนินกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองในลักษณะหรือรูปแบบใดบ้าง จงอธิบาย และยกตัวอย่างของกิจกรรม
ตอบ 
1. กิจกรรมโรงเรียน ได้แก่ กิจกรรมที่เน้นให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม 
2. กิจกรรมสานสัมพันธ์ เป็นกิจกรรมที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และความคุ้นเคยกันในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 
3.  กิจกรรมการสื่อสารสนเทศ กิจกรรมนี้จะเน้นให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับข้อมูลเป็นหลัก 
4. กิจกรรมการศึกษา เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดการเรียน การสอน 
5. กิจกรรมบริการ เป็นกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นเพื่อเป็นการบริการแก่สังคมและครอบครัว 
6. กิจกรรมการตัดสินใจ เป็นกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองระดับสูง
3. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรในการใช้บ้านเป็นฐานของการให้ความรู้ผู้ปกครอง
ตอบ เห็นด้วย ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้าน ดูอบอุ่น และเข้าใจในด้วยเด็กมากขึ้น 
4.  องค์ความรู้ที่จำเป็นในการให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง
ตอบ  1. สร้างเสริมความรู้ของผู้ปกครองเกี่ยวกับธรรมชาติและพัฒนาการของเด็ก
  2. สร้างเสริมความเข้าใจในบทบาทของผู้ปกครอง และอิทธิพลของครอบครัวที่มีต่อเด็ก
  3. สร้างเจตคติที่ถูกต้องในการเลี้ยงดูเด็ก
  4. สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองในการดูแลเด็ก
  5. สร้างความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก

ประเมินตนเอง : มาตรงเวลาค่ะ ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายค่ะ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียนค่ะ ไม่คุยเสียงดังค่ะ
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์บรรยายเข้าใจดีค่ะ

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 2

วันที่ 15 สิงหาคม 2562 







วันนี้เรียน บทที่ 1 ความหมายของผู้ปกครอง

         ผู้ปกครอง หมายถึง ผู้ที่เป็นบิดา มารดา ญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่นที่ให้การอบรมเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่เด็กที่อยู่ในการดูแลให้ความรักและความเอาใจใส่ห่วงใยตลอดจนให้การศึกษาแก่เด็ก
ความสำคัญของผู้ปกครอง
             สรุปได้ว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งพ่อแม่มีความใกล้ชิดกับเด็ก เป็นผู้ที่มีความหมายต่อชีวิตเด็กทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจเป็นผู้ที่เด็กมอบความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ สังคมและสติปัญญา โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยถือเป็นพื้นฐานในการพัฒนาบุคลิกภาพในอนาคต ผู้ปกครองจึงเป็นผู้นำที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการที่เหมาะสมเพื่อการก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างมั่นคงและมีความพร้อมในทุกด้าน 
คำถามท้ายบท
1. ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาคิดว่าบทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครองที่มีต่อเด็กปฐมวัยมีอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
       ตอบ  ในความคิดของดิฉัน คิดว่าบทบาทหน้าที่ของผู้ปกครองในสังคมปัจจุบัน มีความบกพร่องอย่างมาก อาจจะเกิดจากปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคมรอบตัวเด็ก สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก สื่อต่างๆที่เข้ามาในชีวิตและมีบทบาทมากกว่าครอบครัว จะเห็นได้จากข่าวที่เด็กวัยปฐมวัยถูกทำร้ายร่างกายมากขึ้นในสังคมปัจจุบันค่ะ
2. จงอธิบายวิธี แนวทางที่ผู้ปกครองสามารถใช้ในการส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญาให้แก่เด็กปฐมวัย
        ตอบ  
       1.ด้านร่างกาย
      การที่เด็กได้รับการสัมพันธ์โอบกอดจากพ่อแม่ จะเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก และสนองตอบความตื่นตัวของระบบประสาทของเด็ก นอกจากนี้ พ่อแม่ควรจัดเวลา สถานที่ เพื่อให้ลูกได้เคลื่อนไหว ออกกำลังกายและเล่นได้อย่างปลอดภัย ลูกจะเรียนรู้ได้มากจากการเล่น ได้แสดงออก เลียนแบบท่าทางจากคนที่เล่นด้วย พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมพัฒนาการของลูก เพื่อจะได้เข้าใจธรรมชาติและความรู้สึกนึกคิดของลูก
         2.ด้านอารมณ์/จิตใจ
        พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด ด้วยความรักและความเข้าใจ ทำให้ลูกมีจิตใจดีให้โอกาสลูกเรียนรู้ และฝึกทำสิ่งต่างๆในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร พ่อแม่ต้องรับฟังและพูดคุยโต้ตอบกับลูก จำเป็นต้องให้เวลาและเอาใจใส่ลูกอย่างสม่ำเสนอ เพื่อสร้างความมั่นคงทางจิตใจ การฝึกให้ลูกเป็นคนมีน้ำใจมีคุณธรรมจะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
         3.ด้านสังคม
        เด็กจะซึมซับค่านิยม และวัฒนธรรมที่ดีจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่ว่าเป็นมารยาททางสังคม หรือแม้แต่เรื่องราวระเบียบวินัยทางสังคม การรักและชื่นชมธรรมชาติล้วนเป็นเรื่องที่พ่อแม่ ต้องชี้ให้ลูกสนใจและปลูกฝัง ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะเด็กจะเลียนแบบจากผู้ที่พบเห็น ซึ่งจะทำให้เด็กรู้จักกาลเทศะ รู้ผิดรู้ชอบและคุ้นเคยกับสิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์ต่อชีวิต         4.ด้านสติปัญญา
        พ่อแม่สามารถจูงใจให้ลูก มีความใฝ่รู้ กล้าแสดงความคิดเห็น ฝึกให้ลูกเป็นคนรู้จักคิดได้โดยให้ความสนใจ ในสิ่งที่ลูกกำลังทำ ฝึกให้ลูกสังเกตสิ่งต่างๆรอบๆตัว ให้ลูกได้มีโอกาสเรียนรู้จากการลองถูกลองผิดบ้าง ให้มีความคิดที่แปลกใหม่ พยายามให้เด็กได้คิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ทั้งนี้ ควรอยู่บนพื้นฐานของการใช้เหตุผล ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ หากเข้าใจ ถึงแนวทางพื้นฐานเบื้องต้น คือ การฝึก การสังเกต ที่สำคัญ เสรีภาพในครอบครัวจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์ สามารถประสบความสำเร็จในอนาคตได้ ทั้งนี้พ่อแม่ต้องไม่ปิดกั้นหนทางในการสร้างสรรค์ของลูกน้อย

3. การฝึกให้เด็กเป็นคนดี คนขยันและฉลาด ผู้ปกครองควรปฏิบัติอย่างไร
           ตอบ  เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก อาจจะมีสื่อมาช่วยให้เด็กเกิดความเข้าใจง่ายขึ้น  เช่น นิทาน
4. ปัญหาที่เป็นอุปสรรค์ของผู้ปกครองที่มีผลกระทบต่อเด็กปฐมวัย คือปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องใด จงอธิบาย
       ตอบ ปัญหาของครอบครัว เช่น การหย่าร้างของผู้ปกครอง การเลี้ยงดูแลลูกคนเดียว สภาพที่อยู่อาศัย  เป็นต้น 


ประเมินตนเอง : มาเรียนตรงเวลาค่ะ ตั้งใจเรียน มีบางครั้งที่เล่นโทรศัพท์ค่ะ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียนค่ะ ไม่คุยเสียงดัง
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์อธิบายรายละเอียดเข้าใจดีค่ะ

บันทึกหลังการเรียนรู้ครั้งที่ 1

วันที่ 8 สิงหาคม 2562






วันนี้วันแรกที่พบกับอาจารย์ค่ะ  อาจารย์อธิบายรายละเอียดวิชา งาน กิจกรรมต่างๆ ในวิชาการให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 11

 วันนี้เป็นการนำเสนอรายละเอียดของโครงการแต่ละกลุ่มที่ได้ไปจัดแต่ละสถานที่ของกลุ่มตนเอง กลุ่มของดิฉันได้นำเสนอในโครงการ"ศิลปะส...